ชีวประวัติ หลวงพ่อแรม ปสฺสวโร โดยย่อ

ประวัติ หลวงพ่อแรม ปสฺสวโร 

อายุ 64 ปี พรรษาที่ 35 เจ้าอาวาสวัดเขาพรหมชะแง้

ต.ถ้ำรงค์ อ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี

ชาติภูมิ 

หลวงพ่อแรม ปสฺสวโร มีนามเดิมว่า  ต๊อด นามสกุล มีแก้ว ถือกำเนิด เมื่อวันเสาร์ ที่ 18 มกราคม พ.ศ.2501 ตรงกับวันแรม 13 ค่ำ ปีจอ  อาชีพทำนา เป็นบุตร คนที่ 4 ของโยมพ่อเทื้อม และโยมแม่ล้อม นามสกุล มีแก้ว ซึ่งมีบุตรจำนวน 8 คน คือ 1. นางเทื้อน 2. นายรวม 3. นางบาง 4. หลวงพ่อแรม 5. นายเรียน 6.นายสำราญ 7. นางเทือง 8. นายเปี๊ยก

หลวงพ่อแรม จบการศึกษาชั้นป.4 ที่โรงเรียนสารเห็ดวิทยา ได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ เมื่อวันอังคารที่ 7 มกราคม 2529 ณ ที่วัดท่ากระเทียม มีหลวงพ่อแอบ วัดท่ากระเทียมเป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงพ่อรัต เป็นพระกรรมวาจาจารย์ อุปสมบทแล้วได้ฉายาว่า “ปสฺสวโร” ได้จำพรรษาอยู่วัดท่ากระเทียม 2 พรรษา แล้วได้ขอลาพระอุปัชฌาย์ มาศึกษาเล่าเรียนวิชาไสยเวทย์พุทธาคมอยู่กับหลวงพ่อตัด ปวโร  วัดชายนา หลวงพ่อตัด ได้ถ่ายทอดเวทย์มนต์คาถาต่าง ๆ ให้หลวงพ่อแรม จนจบสิ้น จากนั้นหลวงพ่อแรม ขออกธุดงค์วัฒน์ โดยหลวงพ่อตัด ปวโร วัดชายนา เป็นครูลูกกระมูลให้ ได้เดินธุดงค์มุ่งสู่ จ.ศรีสะเกษ เข้าอำเภอกันทรลักษ์ ได้ไปปักกลด อยู่ข้างเขาผาอีมอย อยู่ติดกับปราสาทเขาพระวิหาร ในการเดินอุดงค์ครั้งนี้ ได้มีพระวัดท่ากระเทียมร่วมเดินมาด้วย 2 รูป และ พระวัดชายนา ได้ร่วมเดินมาด้วยอีก 2 รูป รวมพระร่วมขบวนธุดงค์ครั้งนี้ รวมทั้งหลวงพ่อแรม ปสฺสวโร เป็นพระ 5 รูปด้วยกัน ไปปักกลดอยู่ข้างผาอีมอย 1 คืน วันรุ่งขึ้นได้ขึ้นไปนมัสการปราสาทเขาพระวิหาร  แล้วก็เดินผ่านบ้านสำโรงเกียรติ บ้านบักดอง อ.ขุนหาญ เข้า อ.ขุขันธ์ อ.สังขะ ปรางค์กู่ ศรีขรภูมิ แล้วกลับทางรถไฟเข้าสู่กรุงเทพมหานคร และเดินทางกลับสู่วัดชายนา กลับจากธุดงค์แล้วได้เข้ากราบนมัสการครูลูกกระมูล ได้พักอยู่ 2 เดือนได้กราบนมัสการขอหลวงพ่อตัด ไปเรียนวิชาไสยเวทย์จากหลวงพ่อใบ หรือ ท่านพระครูสุวรรณพัชรคุณ (อุปาลิโก) วัดหนองบัว อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์สายเหนียว ที่โด่งดังขึ้นชื่อมาก หลวงพ่อใบ ท่านโปรดปรานหลวงพ่อแรมมาก ได้สั่งสอนถ่ายทอดวิชาไสยเวทย์พุทธาคมให้หลวงพ่อแรม ปสฺสวโร จนสำเร็จเสร็จสิ้น เมื่อได้เล่าเรียนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก้ได้กราบลาหลวงพ่อใบ วัดหนองบัว ไปพำนักอยู่กับ หลวงพ่อจ้วน วัดเขาลูกช้าง หลวงพ่อจ้วน ท่านเป็นศิษย์เอกสืบทอดวิชาไสยเวทย์จากหลวงพ่อทองศุข วัดโตนดหลวง และ ท่านพ่อจ้วนท่านเชี่ยวชาญ ด้านสมุนไพร รักษาโรคร้ายต่าง ๆขับคุณไสยมนต์ดำ ดับพิษไฟ เป่ารักษาโรคเริม งูสวัดไฟลามทุ่ง ผีเข้า โรคตา ดูดฝี และ โรคผิวหนัง แก้สิ่งอัปมงคล แก้อาถรรพ์ต่าง ๆ  ทั้งสวดถอนสิ่งอัปมงคลชั่วร้ายทั้งปวง

    หลวงพ่อแรม ปสฺสวโร ได้อยู่กับ หลวงพ่อจ้วน วัดเขาลูกช้าง หลายพรรษา แล้วก็ได้ขอออกเดินธุดงค์วัฒน์ เป็นครั้งที่ 2 โดยมีหลวงพ่อจ้วน ได้เป็นครูขึ้นลูกกระมูลให้ การครั้งนี้ได้มีพระร่วมธุดงค์ไปอีก 2 รูป รวมหลวงพ่อแรม เป็น 3 รูป ได้เดินเท้าเปล่ามุ่งตะเข็บชายแดนฝั่งไทย-พม่า แล้วเข้าผ่านด่านสิงขร เข้าสู่ประเทศพม่า ได้ไปปักกลมอยู่หมู่บ้านกระเหรี่ยง ได้พบกับเฒ่าเอ๊าะ เป็นหัวหน้ากระเหรี่ยงชราอาวุโส มีความเชี่ยวชาญการใช้สมุนไพรรักษาโรคร้ายต่าง ๆ หลวงพ่อแรม จึงได้ขอศึกษาเล่าเรียนวิชามาไว้ช่วยเพื่อนมนุษย์ ท่านเฒ่าเอ๊าะ ก็ยินดีสั่งสอนให้ทุกอย่าง จึงทำให้หลวงพ่อแรม ท่านมีความเชี่ยวชาญในการใช้สมุนไพรรักษาโรคต่าง ๆ ได้หาย

ชงักยิ่ง ต่อจากนั้น

    ต่อจากนั้น หลวงพ่อแรม และ พระติดตามอีก 2 รูป ก็ได้ลา ท่านเฒ่าเอ๊าะ เดินธุงดงค์ต่อไปยังรัฐฉาน ได้พำนักอยู่รัฐฉาน เป็นเวลา 1 ปี 6 เดือน ได้มีพระภิกษุชาวฝั่งพม่าเดินทางร่วมมาส่งหลวงพ่อแรม ถึง 30 รูป หลวงพ่อแรม ได้นิมนต์พระสงฆ์พม่า 30 รูป มาพำนักอยู่วัดเขาพรหมชะแง้ ซึ่งเวลานั้นได้มีพระสังฆรักษ์พวง (หลวงพ่อพวง) เจ้าอาวาส ได้อนุญาต ให้พักพำนักอยู่ ณ วัดเขาพรหมชะแง้ และ หลวงพ่อแรม ได้นิมนต์พระอุปัชฌาย์ หลวงพ่อไพโรจน์สุวัฒนาธร วัดอินจำปา มาทำการบวชให้พระสงฆ์ฝั่งพม่าใหม่ทั้งหมดทุกรูป และ หลวงพ่อแรม ปสฺสวโร ได้อยู่จำพรรษาเป็นพระลูกวัดเขาพรหมชะแง้ ตลอดมาถึงทุกวันนี้  หลวงพ่อแรม ปสฺสวโร อยู่วัดเขาพรหมชะแง้ ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2539  ในขณะอยู่วัดเขาพรหมชะแง้ ยังฝักไฝ่เรียนรู้ ได้เดินทางไปขอเรียนวิชาจากหลวงพ่อจ่าง วัดเชื่อนเพชร เป็นศิษย์ผู้พี่ของหลวงพ่ออุ้น  วัดตาลกง ท่านเป็นศิษย์สืบสายวิชา หลวงพ่อทองศุข วัดโตนดหลวง หลวงพ่อได้รับหลวงพ่อแรม ปสฺสวโร เป็นศิษย์ และถ่ายทอดวิชาไสยเวทย์ต่าง ๆ ให้จนหมดสิ้น และ ยังได้เดินทางไปขอเรียนวิชาจากหลวงปู่ยวง วัดทับสะแก ท่านบวชอยู่วัดสุทัศน์เทพวราราม หลายสิบพรรษา ต่อมาอาวุโสมากขึ้น หลวงปู่ก็ได้มาอยู่วัดทัพสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ ท่านมีความรู้และเชี่ยวชาญในไสยเวทย์ยิ่งนัก โดยเฉพาะพระกริ่งต่าง ๆ หลวงพ่อแรม เข้าฝากตัวเป็นศิษย์ขอเรียนวิชาต่าง ๆ หลวงปู่ยวง ได้แนะนำ สั่งสอนจนหลวงพ่อแรม มีภูมิความรู้เชี่ยวชาญ และช่ำชองในไสยเวทย์พุทธาคมมาก และเรียกได้ว่า หลวงพ่อแรม ปสฺสวโร เป็นพระลูกวัดเขาพรหมชะแง้ ที่มีความรู้ มีชื่อเสียงโดดเด่นมาก ต่อมาหลวงพ่อพวง เจ้าอาวาสวัดเขาพรหมชะแง้ ได้มรณภาพลง หลวงพ่อแรม ปสฺสวโร ก็ทำหน้าที่รักษาการแทนเจ้าอาวาส วัดเขาพรหมชะแง้ จนถึงปีพ.ศ.2550 หลวงพ่อแคล้ว วัดมหาธาตุ เจ้าคณะจังหวัดเพชรบุรี ได้ทำการแต่งตั้งให้ หลวงพ่อแรม ปสฺสวโร เป็นเจ้าอาวาสวัดเขาพรหมชะแง้ สืบต่อมาจนถึงปัจจุบัน พ.ศ.2564 รวมเป็นเวลา 14 ปีแล้ว ตลอดระยะเวลาที่เป็นเจ้าอาวาส หลวงพ่อแรม ปสฺสวโร ได้เป็นที่พึ่งขอชาวบ้านอย่างดีมาก ท่านมีความสามารถและเชี่ยวชาญในการใช้สมุนไพร รักษาชาวบ้านให้หายจากโรคร้ายต่าง ๆ อย่างได้ผล ปรากฏชัดจนมีชื่อเสียงเลื่องลือไปไกลหลายจังหวัด ขจัดปัดเป่าด้วยเวทย์มนต์และสมุนไพร เช่น เริม ไฟลามทุ่ง งูสวัด โรคกระดูก ข้อปวดบวม เท้าช้าง โรคอัมพฤกษ์ อัมพาต ขยุ่มตีนหมา หมาขยุม ตาบวม ตาแดง ถอนพิษงู สามารถรักษาได้ผลชะงัก มาหาให้ท่านรักษาทั่วทุกสารทิศ  ตั้งแต่เช้ายันเย็น วันละหลายสิบราย หลวงพ่อแรม ปสฺสวโร ใช้เวทย์มนต์ ได้เรียกว่า “จอมขมังเวทย์” ก็ว่าได้ หลวงพ่ออนุเคราะห์ช่วยชาวบ้าน ท่านไม่ได้เรียกร้องรับปัจจัยชาวบ้าน สุดแต่จะทำบุญ หลวงพ่อแรม ปสฺสวโร ท่านเคร่งครัดในพระธรรมวินัย มีเมตตาแก่ชาวพุทธอย่างเสมอเหมือน ไม่เลือกที่รักมักที่ชั่ง กราบไหว้ได้อย่างสนิทใจ นอกจากเป็นที่พึ่งของชาวบ้านได้อย่างดีแล้ว ท่านยังได้ปกครองอบรมพระสงฆ์พระลูกวัดได้เป็นอย่างดี ให้มีการสอนเรียนนักธรรม ด้านทำวัตรสวดมนต์ก็มีความคล่องแม่นยำ มีความเป็นระเบียบพร้อมเพียงกันดีมาก โดยเฉพาะพระลูกวัดสวดพระคาถาธัมมจักกัปปวัตตนสูตร ได้เสียงไพเราะขึ้นใจได้ทุกรูป เป็นที่ยอมรับว่ามีน้อยวัดที่สวดได้ไพเราะขึ้นใจแบบนี้ หลวงพ่อแรม ได้พัฒนาและสร้างความเจริญให้วัดไม่หยุดยั้ง ได้สร้างและทำถนน เทคอนกรีตรอบเขาพรหมชะเง้ ระยะทาง 1.5 กม. ซื้อที่ดินเพิ่มให้วัดจำนวน 25 ไร่ สร้างพระพุทธรูป ต่าง ๆ ภายในถ้ำเขาพรหมชะแง้ ได้สร้างศาลาปากถ้ำหลังเขาพรหมชะแง้ ได้สร้างพระพุทธรูปองค์ใหญ่ บนยอดเขาพรหมชะแง้ ตั้งชื่อ หลวงพ่อใหญ่ วัดเขาพรหมชะแง้ โดยถ้ำที่ลงได้อยู่ 9 ถ้ำ สำหรับถ้ำที่มีแร่อยู่กลางภูเขา แร่เขาพรหมชะแง้ มีความศักดิ์สิทธิ์ ด้านคุ้มปกปักรักษา อยู่ยงคงกระพัน เป็นที่เลื่องลือมาช้านาน หลวงพ่อจวน วัดเขาลูกช้าง และ หลวงพ่ออุ้น สุขกาโม ได้เคยมาเอาไปสร้างวัตถุมงคลจำนวนมาก ปัจจุบันแร่เหลือน้อยจะต้องลงไปใจกลางภูเขาถึง 20 กว่าเมตร ท่านผู้มีจิตศรัทธา จะเดินทางมาเที่ยว หรือ กราบนมัสกราบไหว้พระหลวงพ่อใหญ่ บนยอดเขา และชมถ้ำพรหมชะแง้บูชาพระภายในถ้ำ และลงมากราบขอพรหลวงพ่อแรม ปสฺสวโร และ บูชาเหรียญรุ่น ๑ ของท่านสร้าง 3 เนื้อ

• เนื้อเงิน สร้าง 25 เหรียญ บูชาเหรียญละ 2,500 บาท (หมด)
• เนื้ออัลปาก้า สร้าง 2,004 เหรียญ บูชาเหรียญละ 300 บาท
• เนื้อทองแดง สร้าง 2,505 เหรียญ บูชาเหรียญละ 200 บาท

ทุกเหรียญตอกโค๊ต เรียงเลข (รุ่น๑ นี้ สร้างครั้งเดียว บล๊อคแม่พิมพ์ทำลายหมดแล้ว) รายได้สำหรับบูรณะซ่อมแซมสิ่งชำรุดภายในวัด

(เช่าบูชาได้ที่วัด และ ศูนย์จองทั่วไป)

เส้นทางเดินทางสู่วัดเขาพรหมชะแง้

1.เดินทางจาก ถ.เพชรเกษม สายท่ายาง-เพชรบุรี จากตลอด อ.ท่ายาง วิ่งเข้า จ.เพชรบุรี วิ่งไป 4 กิโลครึ่ง ปากทางเข้าวัดเขาพรหมชะแง้ อยู่ติด ถ.เลนด้านสวนทางด้านขวา เข้าไป 800 เมตร ถึงวัด

2.เดินทางมาจากกรุงเทพฯ เริ่มจากหน้าห้างบิ๊กซีเพชรบุรี แล้วขับรถเข้าตลาดท่ายาง วิ่งไประยะทาง 10 กิโลครึ่ง ถึงปากทาง เข้าวัดด้านซ้ายมือ แล้วขับรถเข้าไปทางคอนกรีต 800 เมตร ก็ถึงวัดเขาพรหมชะแง้