**ขณะนี้ ร้านเราเปิดให้บริการ เฉพาะออนไลน์ เท่านั้นนะคะ**

 

รบกวนลูกค้าที่น่ารักทุกท่าน ...

รบกวนพูดคุย กันในไลน์ เท่านั้นนะคะ

*หากลูกค้าต้องการติดต่อสั่งบูชา สั่งจอง สอบถามรายละเอียด*

ติดต่อได้ที่ Line iD : @pnt19 (กรุณาใส่ "@" ด้วย)  ช่องทาง line เท่านั้นนะคะ

ขอบพระคุณมากค่ะ

สั่งบูชาทาง Line สั่งบูชาทาง Line

ประวัติหลวงพ่อรุ่ง สำนักสงฆ์ท่าไม้ลาย

ประวัติย่อ

หลวงพ่อรุ่ง ปิยธโร สำนักสงฆ์ท่าไม้ลาย ต.เขาจ้าว อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์


          พระเกจิอาจารย์ไสยเวทย์พุทธาคมขลัง เป็นศิษย์สืบทอดไสยเวทย์พุทธาคมจากพระครูวินัยวัชรกิจ (หลวงพ่ออุ้น สุขกาโม) วัดตาลกง สืบทอดไสยเวทย์อาคมจาก พระครูโพธิวัชรคุณ (หลวงพ่อแก้ว ฐิตรติ) วัดลุ่มโพธิทอง ต.ลุ่มโพธิทอง อ.เมือง จ.เพชรบุรี ซึ่งหลวงพ่อแก้ว ฐิตรติ ท่านเป็นศิษย์สืบสายเวทย์พุทธาคม จากหลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม จ.นครปฐม และหลวงพ่อรุ่ง ปิยธโร ได้รับถ่ายทอดวิไสยเวทย์พุทธคม จาก พระอธิการพาน สุขกาโม วัดโป่งกะสัง อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ พระเกจิอาจารย์และคณาจารย์ต่างๆ ที่ได้สั่ง สอน และประสาทวิชาให้ หลวงพ่อรุ่ง ปิยธโร ล้วนแต่มีชื่อเสียงเรืองเวทย์วิทยาคมทั้งสิ้น

ชาติภูมิ   หลวงพ่อรุ่ง ปิยธโร มีนามเดิมว่า “รุ่ง” นามสกุล “อินทรพรหม” ถือกำเนิดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ.2505 ตรงกับขึ้น 11 ค่ำ เดือน 8 ปีขาล เป็นบุตรคนที่ 6 ในจำนวนพี่น้อง 10 คน ด้วยกัน คือ 1. นายทองย้อย 2. นางบุญเลี่ยม 3. นายเลี้ยม 4. นายบุญเลือน 5. นางบุญเลือง 6. หลวงพ่อรุ่ง 7. นายน้อง 8. นางกุหลาบ 9. นายน้อย 10. นายยงยุทธ ของโยมพ่อเยื้อง โยมแม่สำรวย ณ บ้านเลขที่ 20 ม.2  ต. ไร่มะขาม อ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี จบการศึกษาชั้นป.4 ที่โรงเรียนวัดตาลกง อาชีพทำนาทำไร่

อุปสมบท เมื่ออายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ ได้อุปสมบท ณ พัทธสีมา วัดตาลกง เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน พ.ศ.2525 โดยมีพระครูโพธิวัชรคุณ (หลวงพ่อแก้ว ฐิตรติ) วัดลุ่มโพธิทอง เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูวินัยวัชรกิจ (หลวงพ่ออุ้น สุขกาโม) เป็นพระกัมวาจาจารย์ พระอธิการพาน วัดโป่งกะสง เป็นพระอนุสาวณาจารย์ อุปสมบทแล้วได้รับฉายานามทางภิกษุว่า “ปิยธโร” อุปสมบทแล้วได้จำพรรษาอยู่วัดตาลกง 3 พรรษา แล้วได้เดินทางไปจำพรรษาอยู่วัดเขาพรหมชะแง้ 2 พรรษา ได้เรียนวิชาไสยเวทย์กลับหลวงพ่อพ่วง ประสันโณ เจ้าอาวาสวัดเขาพรหมชะแง้ และช่วยหลวงพ่อพ่วง หาทุนทรัพย์สร้างอุโบสถจนสำเร็จ แล้วได้ลาหลวงพ่อพ่วง กลับมาอยู่วัดตาลกง เล่าเรียนวิชาอยู่กับหลวงพ่ออุ้น สุขกาโม หลวงพ่ออุ้น ได้ถ่ายทอดวิชาไสยเวทย์ ด้านเมตตา มหาเสน่ห์ และขับคุณไสย ขับวิญญาณ ปราบผีเข้า ปัดรังควาน แก้อาเพศสิ่งชั่วร้าย วิชาทำตะกรุด วิชามหาอุด อุดปืน อยู่ยงคงกระพันชาตรี ทำน้ำมันมนต์แก้ถูกกระทำ แก้ปวดข้อเนื้อตัว และปวดกระดูก เจิมรถ ดูฤกษ์ยาม ปลุกบ้าน หลวงพ่อรุ่ง ปิยธโร ได้รับถ่ายทอดวิชาต่าง ๆ จากหลวงพ่ออุ้น ได้เรียนรู้และเชี่ยวชาญช่ำชองใน ไสย เวทย์เป็นอย่างยิ่ง เป็นที่ไว้เนื้อเชื่อใจ ได้เคยรับมอบหมายให้ทำการปัดรังควาน ผู้ถูกวิญญญาณร้ายเข้าสิง จากหลวงพ่ออุ้นอยู่เสมอ หลวงพ่ออุ้น ให้เจิมรถแทน ลงตะกรุดเสริมดวงแทน หลวงพ่ออุ้น สุขกาโม ได้เคยทดสอบกรรมฐาน และสมาธิจิตหลวงพ่อรุ่ง และยอมรับในความสามารถฝึกฝน  และเรียนรู้สำเร็จได้อย่างเข้มขลังอย่างดี สามารถปฎิบัติให้เกิดผลได้ ชาวบ้านตาลกงมาพบหลวงพ่ออุ้น จะแนะ นำว่า พระรุ่ง ทำแทนฉันได้ และได้ผลด้วย หลวงพ่อรุ่ง ปิยธโร ได้รับการถ่ายทอดวิชาไสยเวทย์จากหลวงพ่ออุ้น จนจบสิ้น เป็นศิษย์ที่หลวงพ่ออุ้น ไว้เนื้อเชื่อใจ และเลือกให้หลวงพ่อรุ่ง ปิยธโร เป็นตัวแทนไปสร้างสำนักสงฆ์ ท่าไม้ลาย ต.เขาจ้าว  อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งมีเนื้อที่เกือบ 1,000 ไร่ ที่มีผู้มีจิตศรัทธาหลวงพ่อ อุ้น สุขกาโม เมื่อครั้งในสมัยที่หลวงพ่ออุ้น ได้เดินธุดงควัธด์ผ่านไปปลักกลด ผู้ถวายมีจุดประสงค์ต้องการมีวัด มีเมรุ มีโรงเรียน และมีสถานอนามัยในปีพ.ศ.2527 หลวงพ่ออุ้น สุขกาโม ได้ส่งพระรุ่ง ปิยธโร ไปเริ่มดำเนิน การสร้างสำนักสงฆ์ ในครั้งแรก หลวงพ่อรุ่ง ได้ชักชวนพระร่วมไปด้วยรวม 5 รูป ได้ช่วยกันถางป่าปรับพื้นที่ อันดับแรกเบื้องต้นได้ช่วยกันสร้างกระต๊อบขึ้น 1 หลัง พระ 5 รูป ต้องอยู่โคนไม้ไปหลายวัน ที่แรกน้ำดื่มก็หา ยาก ยามเช้าต้องเดินออกบิณฑบาตรไประยะทางถึง 2 ก.ม. ไกล ๆ จะมีบ้านผู้คนหลังหนึ่ง พระรุ่ง ต้องเดินทาง ไปและกลับวัดตาลกงอยู่เสมอ พระภิกษุที่มาร่วมงาน บางครั้งเหลืออยู่ช่วยเหลือแค่ 2 รูป เคยมีบางครั้งหลวง พ่ออุ้น สุขกาโม ได้ส่งพระที่วัดตาลกงมาช่วยถึง 7 รูป เมื่อสร้างกระต๊อบขึ้น 1 หลัง ต่อมาหลวงพ่อรุ่ง ปิยธโร ก็ได้สร้างศาลาขึ้น 1 หลังมีพื้นที่กว้าง 12 เมตร ยาว 22 เมตร พื้นคอนกรีตหลังคามุมกระเบื้อง ใช้ทุนทรัพย์ใน การสร้างหลายแสนบาท โดยที่หลวงพ่อรุ่ง ปิยธโร เป็นผู้ได้จัดหาทุนทรัพย์มาก่อสร้าง ได้รับศรัทธาบริจาค ทรัพย์จากชาวบ้านนาขึงหนัง ชาวบ้านตาลกง ชาวบ้านตาลกง ชาวบ้านพรหมชะแง้ ชาวอำเภอบ้านลาด ชาวอำเภอท่ายาง และพุทธศาสนิกชนอีกหลายท่าน ร่วมกันทำบุญสร้างขึ้น และต่อมาก็ได้สร้างกุฎิสงฆ์ สร้าง สถานีอนามัย สร้างโรงเรียนท่าไม้ลาย โดยหลวงพ่อรุ่ง ปิยธโร ได้เป็นองค์อุปถัมภ์โรงเรียน และได้สร้างเมรุเตา เผา ปัจจุบันสำนักสงฆ์ท่าไม้ลาย ได้อาศัยแรงศรัทธาด้านนอกเป็นส่วนใหญ่ ต้องหาปัจจัยจากภายนอกมา พัฒนาและบูรณะ สำนักสงฆ์ท่าไม้ลายอยู่ติดภูเขาติดลำห้วย ชาวบ้านส่วนใหญ่ทำไรสับปะรดและสวนยาง บ้าน ผู้คนยังมีน้อย ยามฤดูฝนดูอดุมสมบูรณ์ แต่พอเป็นฤดูแล้งค่อนข้างกันดาร  สำนักสงฆ์ท่าไม้ลายยังไม่มีพันธสีมา เพราะยังไม่มีทุนทรัพย์ที่จะก่อสร้าง หลวงพ่อรุ่ง ปิยธโร  ได้มาอยู่ที่สำนักสงฆ์ท่าไม้ลายอย่างถาวรเมื่อ ปีพ.ศ. 2540 ปัจจุบันหลวงพ่อรุ่ง ปิยธโร มีชื่อเสียงและได้เป็นที่ศรัทธาของชาวบ้านเป็นอย่างมาก มีทั้งชาวไทย มอญ และกระเหรียง เพราะหลวงพ่อรุ่ง ปิยธโร เป็นพระมีเมตตาน้ำใสใจดี เอื้ออารีเอื้อเฟื้อ ช่วยเหลือขจัดปัดเป่า และ รักษาในยามที่ชาวบ้านมีทุกร้อนมาขอพึ่งหลวงพ่อรุ่ง ก็ช่วย หลวงพ่อรุ่ง มีน้ำมันมนต์ มีวิชาขับคุณไสย มีน้ำมนต์สืบชะตา มีตะกรุดคุ้มครอง ป้องกันผีโปร่งผีป่า หลวงพ่อรุ่ง ถึงอยู่ที่ก้นดารห่างไกลความเจริญ  แต่ชาวจีนยังมานะเดินทางจากต่างประเทศเข้าป่าเขาไปกราบ หลวงพ่อรุ่ง ปิยธโร ที่สำนักสงฆ์ท่าไม้ลาย  ขอตะกรุดค้าขาย และน้ำมันมนต์ ในยามกลางคืนหลัง 2 ทุ่มก็จะทำสมถกรรมฐาน และวิปัสสนากรรมฐานไป จนถึงเวลาเที่ยงคืนแทบทุกคืน เว้นเสียจากติดกิจนิมนต์ หลวงพ่อรุ่ง ได้เล่าให้ฟังว่ามีบ่อยครั้งที่ออกจากสมาธิ เห็นลำแสงเป็นลูกไฟดวงใหญ่ลอยมาวนเวียนรอบกุฎิ ก็ได้สวดแผ่เมตตาไปให้ และบอกกล่าวว่าเราต่างคนต่าง อยู่ ไม่เบียดเบียนกัน แล้วดวงไฟก็ลอยหายไป และได้เคยมีวิญญาณผีตายโหง ไม่มีหัว เสือมีแต่ตัวไม่มีหัว งูไม่มี หัว และวิญญาณวัวมีครึ่งตัว มาขอส่วนบุญหลวงพ่อรุ่ง ปิยธโร ได้แผ่เมตตาให้วิญญาณต่างๆ ก็หายไป สำนัก สงฆ์ท่าไม้ลาย อยู่ใกล้กับอุทธยานแห่งชาติกุยบุรี นายสำราญ มะคำ ชาวบ้านเล่าให้ฟังว่าเคยมีช้างป่าตกมัน หลงฝูงมายังสำนักสงฆ์แห่งนี้ หลวงพ่อรุ่ง ปิยธโร ได้สวดพระคาถาสะกด จนช้างป่าได้ล่าถอยไป และยังมีเสือ ลงจากป่าลงกินน้ำ ที่ลำธารช้างวัดอยู่เสมอ ปัจจุบันได้หายไปไม่ปรากฎมาหลายปีแล้ว ก็ยังเคยมีงูใหญ่มา ปรากฎตัวให้เห็น เลี้อยมาข้างศาลา ซึ่งศาลาสำนักสงฆ์เป็นอาคารชั้นเดียวไม่ได้ยกพื้น งูต่าง ๆ ก็ไม่ปรากฎเข้า ภายใน เพราะหลวงพ่อรุ่ง ได้ทำการอธิษฐานและใช้คาถาสะกดไว้ เมื่องูเลื้อยมาถึงเขตห้ามจะขดตัวหันตัวถอย แล้วจะรีบเลี้อยถอยหนีเข้าป่าไปทุกครั้ง ในป่าเขาแถบนี้มีสิ่งลึกลับมหัศจรรย์มาก ฉะนั้นพระภิกษุสงฆ์ ที่อยู่ใน ป่าเปลี่ยว ที่มีแต่ความวิเวกหลุดจากโลกภายนอกที่แสนสุดจะวอกแวก และวุ่นวายจึงพึงบำเพ็ญสมาธิจิต และ ปฎิบัติตนเคร่งครัดในศีลให้บริสุทธิ์ที่สุดตามพระธรรมวินัย คำสั่งสอนของพระศาสดาสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธ เจ้าอย่างถูกต้องและเคร่งครัด จึงจะสามารถอยู่เป็นเนื้อนาบุญได้ และสามารถพ้นจากอันตรายจากบรรดาสิงห์ สาลาสัตว์ร้ายทั้งหลายทั้งปวงได้

ศึกษาไสยเวทย์พุทธาคม  หลวงพ่อรุ่ง ปิยธโร ได้เรียนไสยเวทย์พุทธาคมจากท่าน พระครูวินัยวัชรกิจ (หลวงพ่ออุ้น สุขกาโม) วัดตาลกง ต.มาบปลาเค้า อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี พระเกจิอาจารย์ชื่อดังอาคมเข้มขลัง ศักดิ์สิทธิ์วัตถุมงคลเล่นหาทุกรุ่น เหรียญรุ่น๑ เนื้อทองคำเล่นหาราคาหลักล้าน เนื้อเงินหลักแสนต้น ๆ เนื้อ อัลปาก้าหลักหมื่น และได้เรียนวิชาไสยเวทย์จากพระครูโพธิวัชรคุณ (หลวงปู่แก้ว ฐิตรติ) วัดลุ่มโพธิทอง ซึ่ง หลวงปู่แก้ว ท่านเป็นศิษย์ได้สืบทอดวิชาไสยเวทย์จาก หลวงพ่อเงิน จนฺทสุวรรณโณ วัดดอนยายหอม จ.นครปฐม ได้สอนวิชาเสกหุ่น และปลุกเสกวัตถุมงคลและเรียนวิชาไสยเวทย์จากหลวงพ่อพาน สุขกาโม  วัดโป่งกะสัง อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ หลวงพ่อพาน สุขกาโม เป็นพระเกจิอาจารย์จอมขมังเวทย์เข้มขลัง อยู่ยงคงกระพันชาตรี และมหาอุดปืน วัตถุมงคลทุกรุ่นมีค่านิยมเล่นหาราคาสูง โดยเฉพาะเหรียญรุ่นแรก เล่น หากันหลักหมื่นกลาง  หลวงพ่อรุ่ง ปิยธโร ได้รับการถ่ายทอดวิชาเสกวัตถุมงคล ทำตะกรุดโทน และตะกรุดคู่ บารมี  หลวงพ่อพาน สุขกาโม วัดโป่งกะสัง ท่านได้เดินทางมาพำนักพักอยู่วัดเขาพรหมชะแง้อยู่บ่อยครั้ง มาแต่ละครั้ง 2 วันบ้าง 3 วันบ้าง หลวงพ่อรุ่ง ปิยธโร จะเดินทางไปพบหลวงพ่อพาน ให้การต้อนรับและดูแล รับใช้ตลอดจนกว่าท่านจะกลับ หลวงพ่อพาน สุขกาโม  โปรดปรานหลวงพ่อรุ่งมาก   ได้ถ่ายทอดสอนวิชาไสย เวทย์พุทธาคมให้หลวงพ่อรุ่ง ปิยธโร ทุกครั้งที่มาพบที่วัดเขาพรหมชะแง้ มีอยู่ครั้งหนึ่งเวลากลางคืนหลวงพ่อพาน ได้สอนหลวงพ่อรุ่ง ให้ทำจิตก่อนจะใช้วิชาแล้วท่านก็นั่งนิ่งอยู่ประมาณ 10 นาที แล้วท่านก็กล่าวขึ้นว่า เป็นพระภิกษุสงฆ์ต้องฝึกอยู่ป่าเขาอยู่วิเวกให้ได้ท่านรุ่ง อาจต้องเป็นสมพานวัดอยู่ในป่าเขาเหมือนฉัน หลวงพ่อ รุ่ง สงสัยก็ถามหลวงพ่อพานว่า หลวงพ่อที่วัดตาลกงและวัดแถวนี้มีแต่ทุ่งนา ไม่มีป่าเขา หลวงพ่อพานกล่าวว่า เอาเถอะน่าอย่างน้อยก็ที่เขาพรหมชะแง้นี้ก็มีป่าและเขาอยู่บ้าง แล้วก็ว่าจะบอกวิชาไว้แก้รำคาญ ถ้าเป็นสมพาน วัดจะได้ไว้ช่วยเหลือขจัดปัดเป่าให้โยมต่าง ๆ ได้ หลวงพ่อรุ่ง ปิยธโร ได้รับการถ่ายทอดวิชาหนุนธาตุ  และทำ สมาธิแผ่พลังประจุลงในปฐวีธาตุ เช่น  รัตนชาติต่าง ๆ อันมีแร่ต่าง ๆ ทั้งกรวด หิน ดิน ทราย ให้เกิดอำนาจ และพลังศักดิ์สิทธิ์ ฉะนั้นการทำวัตถุมงคลวัดตาลกงจึงเป็นที่มาของแร่พรหมชะแง้ จากวัดเขาพรหมชะแง้ที่มี ความศักดิ์สิทธิ์แห่งเดียวกัน เขาพรหมชะแง้เป็นภูเขาเดี่ยวโดดเด่นอยู่กลางทุ่งนา ภูเขากลม ๆ ลูกหนึ่งที่เดิน ทางไปมาง่ายและสะดวกในพื้นที่เขามีแร่อยู่มาก เป็นแร่ที่มีความศักดิ์สิทธิ์ สันนิษฐานว่าบนเขาลูกนี้ได้มีพระเกจิ อาจารย์และพระคณาจารย์ที่เรืองเวทย์มีสมาธิจิตสูงได้มาบำเพ็ญเพียรหลายรูป ด้วยชาญและพลังจิตของผู้ ทรงศีลบริสุทธิ์ ด้วยบุญฤทธิ์จึงก่อเกิดให้แร่เขาพรหมชะแง้มีความศักดิ์สิทธิ์มาก  หนึ่งในพระเกจิก็มี หลวงพ่อ พาน วัดโป่งกะสัง พระอาจารย์ของหลวงพ่อรุ่ง ปิยธโร หลวงพ่อทองศุข วัดโตนดหลวง หลวงพ่ออุ้น วัดตาล กง หลวงพ่อจ้วน วัดเขาลูกช้าง หลวงพ่อเพลิน วัดหนองไม้เหลือง และพระเกจิอาจารย์ในยุคเก่าเช่น หลวงพ่อ ฉุย วัดคงคาราม หลวงพ่อคำ วัดหนองแก หลวงพ่อจัน วัดมฤคทายวัน หลวงพ่อแก้ว วัดปากทะเล เป็นต้น เรียกว่าพระสงฆ์สมณที่บำเพ็ญเพียรส่วนใหญ่จะเคยมาทำสมาธิบนเขาแห่งนี้ หลวงพ่อรุ่ง ปิยธโร จึงเป็นพระ เกจิอาจารย์ที่มีครูบาอาจารย์ที่มีชื่อเสียงดี มีความสามารถและเชี่ยวชาญในไสยเวทย์พุทธาคมทุกรูป ด้วยพื้น ฐานของครูอาจารย์ของหลวงพ่อรุ่ง ปิยธโร รวมถึงการปฎิบัติดี และประพฤติชอบตามคำสอนพระธรรมวินัย ขององค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้าอย่างถูกต้องและเคร่งครัดจะส่งผลให้หลวงพ่อรุ่ง ปิยธโร เป็นพระเกจิ อาจารย์มีความเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์ เป็นที่พึ่งเป็นที่ศรัทธาเลื่อมใสของศิษย์และพุทธศาสนิกชน เป็นเนื้อนาบุญ ของชาวพุทธที่กราบไหว้ได้อย่างสนิทใจ

สร้างวัตถุมงคล  หลวงพ่อรุ่ง ปิยธโร ได้เคยสร้างและเสกวัตถุมงคล ตะกรุดเสริมดวง ตะกรุดคู่บารมี ทำสีผึ้ง หุงน้ำมันมนต์ น้ำมันว่าน และกำลังสร้างเหรียญรูปไข่รุ่นแรก (รุ่น๑) และพระปิดตาต่าง ๆ ซึ่งยังอยู่ในระหว่าง อธิษฐานจิตปลุกเสก จะนำออกให้พุทธศาสนิกชนได้บูชาในต้นปีใหม่พ.ศ.2558 นี้ และหลวงพ่อรุ้ง ปิยธโร ท่านได้ทำการอธิษฐานจิตปลุกเสก ปฐวีธาตุ ซึ่งต้องใช้เวลาอันยาวนานพอสมควร หลวงพ่อจะออกให้บูชาและ แจกเป็นของขวัญสำหรับผู้เดินทางไปสำนักสงฆ์ท่าไม้ลาย ในประมาณเดือนกุมภาพันธ์ 2558 นี้

เส้นทางไปสำนักสงฆ์ท่าไม้ลาย มี 3 เส้นทาง

-เส้นทางที่ 1 จากหวหินเข้าป่าละอูไปถึง ด่านกรมอนุรักษ์ด่านที่ 2 เลยไปประมาณ 100 เมตร แล้วเลี้ยวซ้ายไป ถึงโรงเรียน ต.ช.ด.ห้วยผึ้ง ถึงตลาดใหญ่แล้วเลี้ยวขวาข้ามสะพาน แล้วไปตามทางโค้งอีกประมาณ 1 ก.ม.ครึ่ง จะถึงคล้องน้อย ข้ามสะพานปูนไปอีกประมาณ 10 ก.ม. ถึงหมู่บ้านแพกตะคล้อ แล้วเลี้ยวซ้ายอีก 3 ก.ม. ก็ถึงสำนักสงฆ์ท่าไม้ลาย

-เส้นทางที่ 2 จากถนนบายพาสหัวหินเข้าวัดห้วยมงคล เลี้ยวขวาถึงบ้านคอกช้างติดต่อบ้านทรายงาม ขึ้นเขา คอกช้าง เป็นถนนทางดินสองข้างทางเป็นสวนยางและไร่สับปะรด ระยะทางจากบ้านคอกช้างถึงสำนักสงฆ์ท่า ไม้ลาย 38 ก.ม. เส้นทางนี้ต้องหมั่นถามชาวบ้าน เพราะส่วนใหญ่จะเป็นทางโค้ง

-เส้นทางที่ 3 เข้าทางปากทางเข้าเขื่อนปราณบุรี ซึ่งถ้ามาจากกรุงเทพฯ ปากทางเข้าเขื่อนปราณจะอยู่เลย ตลาดปราณไป 1 ก.ม.  อยู่ด้านขวามืออยู่อีกซีกหนึ่งของถนน  ต้องยูเทิร์นกลับแล้วเลี้ยวซ้ายเป็นถนนลาดยาง เจ้าถึงชายเขาแล้วเลี้ยวซ้าย ห้ามเลี้ยวขวาจะเข้าเขื่อนปราณ แล้วขึ้นเขาช่องพระ แล้วเป็นทางโค้งเลี้ยวขวาไป เรื่อย จะเป็นทางดินมากกว่าทางลาดยาง 2 ข้างทางเป็นสวนยางและไร่สับปะรส จะต้องถามชาวบ้านหลายครั้ง เช่นกัน ที่สำคัญที่สุดคือ หมู่ 6 ต.เขาจ้าว ถ้าถึงจุดนี้ก็ใกล้มากแล้ว ต้องถามทางมากหน่อย เพราะเริ่มมีทาง แยก ตรอก ซอยมากหน่อย สุดท้ายก่อนถึงวัดสำนักสงฆ์จะต้องลงห้วยและขึ้นเขาผ่านห้วยใหญ่ถึง 4 ครั้ง มี สะพานคอนกรีต 4 สะพานในลำห้วยเส้นเดียวกัน เพราะถนนก็โค้งลำห้วยก็คดไปวนมาเช่นกัน เส้นทางที่ 3 นี้ ก็ไม่ยุ่งยากเท่าไหร่ถ้าตั้งใจ เพราะส่วนถนนที่เป็นทางดินจะมีระยะทางยาวกว่าทางลาดยาง ถนนก็กว้างดี มีบาง ตอนจะแคบบ้างเล็กน้อยเท่านั้น รวมระยะทางจากปราณบุรี ถึง สำนักสงฆ์ท่าไม้ลาย 45 ก.ม. ผู้เขียนก็เดินทาง เส้นทางนี้ เส้นทางอื่นยังไม่เคยไป ได้รับคำแนะนำจากทางชาวบ้านว่าเส้นทางที่ 1 ดีที่สุด และจะเป็นทางลาด ยางเกือบทั้งหมด ก็ขอเชิญพุทธศาสนิกชนและผู้ใจบุญทั้งหลาย ถ้ามีโอกาสเดินทางไปกราบนมัสการ หลวงพ่อ รุ่ง ปิยธโร และสร้างกุศลผลบุญที่สำนักสงฆ์ท่าไม้ลาย ให้เจริญรุ่งเรืองขึ้น เป็นการช่วยศาสนา ท่านผู้ใจบุญ ย่อมได้รับความสุขและความเจริญยิ่งยิ่งขึ้น