**ขณะนี้ ร้านเราเปิดให้บริการ เฉพาะออนไลน์ เท่านั้นนะคะ**

 

รบกวนลูกค้าที่น่ารักทุกท่าน ...

รบกวนพูดคุย กันในไลน์ เท่านั้นนะคะ

*หากลูกค้าต้องการติดต่อสั่งบูชา สั่งจอง สอบถามรายละเอียด*

ติดต่อได้ที่ Line iD : @pnt19 (กรุณาใส่ "@" ด้วย)  ช่องทาง line เท่านั้นนะคะ

ขอบพระคุณมากค่ะ

สั่งบูชาทาง Line สั่งบูชาทาง Line

ประวัติหลวงพ่อเกลื่อน วัดรางฉนวน

ปีพ.ศ.2553 อายุ 86 ปี พรรษาที่ 62 เจ้าอาวาสวัดรางฉนวน
ต.วังน้ำเย็น อ.แสวงหา จ.อ่างทอง 

          


          ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์จอมขมังเวทย์ มีวิชาไสยเวทย์แก่กล้า มีวาจาสิทธิ์ บรรลุญาณสมาบัติชั้นสูง บริสุทธิ์ ผ่องแผ้วทั้งทางโลกและทางธรรมปฏิปทาน่าเลื่อมใส ถือมักน้อยสันโดด และเคร่งครัดในพระธรรมวินัย มีเมตตาเอื้ออาทรปฏิบัติต่อพุทธศาสนิกชน ที่มานมัสการอย่างเสมอกัน ไม่เลือกที่รักมักที่ชัง เป็นที่ศรัทธาเลื่อมใสของพุทธศาสนิกชนหลายจังหวัด เช่น อ่างทอง สิงห์บุรี ลพบุรี อยุธยา สุพรรณบุรี นครปฐม กาญจนบุรี และราชบุรี เป็นพระสุปฏิปัณโนรูปหนึ่งที่กราบได้อย่างสนิทใจ ด้านไสยเวทย์พุทธาคมได้รับการถ่ายทอดและสืบสายจากหลวงพ่อบัว วัดแสวงหา จ.อ่างทอง หลวงพ่อชั้น เกสโร วัดบางละแก อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี หลวงพ่อคำ วัดหน่อพุทธางกูร จ.สุพรรณบุรี หลวงพ่อแต้ม วัดพระลอย จ.สุพรรณบุรี ล้วนเป็นเกจิอาจารย์จอมขมังเวทย์และมีชื่อเสียงวัตถุมงคลได้รับความนิยมสูง

          ชาติภูมิ      หลวงพ่อเกลื่อนมีนามเดิมว่า เกลื่อน ประสารทรัพย์ ถือกำเนิดเมื่อวันจันทร์ที่ 17 มีนาคม พ.ศ.2467 (ปีกุน) เป็นบุตรคนโตในจำนวนทั้งหมด 2 คน คือ 1.หลวงพ่อเกลื่อน  2.นางบุญมา ของโยมพ่อกลั่น โยมแม่ง้อ ณ บ้าน รางฉนวน ต.วังน้ำเย็น อ.แสวงหา จ.อ่างทอง การศึกษาจบ ป.4 ที่โรงเรียนวัดข่อย อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง เมื่อจบแล้วได้มาช่วยบิดามารดาประกอบอาชีพในด้านเกษตรกรรม

          อุปสมบท   ณ พัทธสีมา วัดแสวงหา เมื่อปี พ.ศ.2491 โดยมีพระครูปัญญาสารคณี (หลวงพ่อบัว) เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายาว่า คุตธมฺโม ศึกษาพุทธาคม เมื่ออุปสมบทแล้ว ได้อยู่รับใช้หลวงพ่อบัวอยู่ 2 พรรษา ก็ได้ลาท่านมาจำพรรษาอยู่วัดรางฉนวน ได้เรียนนักธรรม สอบได้นักธรรมเอก ในพรรษาที่ 5 หลวงพ่อเกลื่อนได้เริ่มเดินทางไปกลับวัดแสวงหา ได้ไปศึกษาวิชาไสยเวทย์วิปัสสนากรรมฐาน ทำสมาธิบรรจุพลังบรรจุอาคมการหนุนธาตุจากหลวงพ่อบัว ตามตำราวิชาสายหลวงปู่ศรี วัดพระปรางค์ อ.บางระจัน จ.สิงห์บุรี ซึ่งท่านเป็นสุดยอดปรมาจารย์ที่เข้มขลังที่สุดและโด่งดังมากในยุคนั้น ตะกรุดดอกละหลายหมื่น ได้ชื่อว่าเทพเจ้าไสยเวทย์แห่งลุ่มแม่น้ำน้อย หลวงพ่อแพร วัดพิกุลทอง จ.สิงห์บุรี ก็ได้รับการถ่ายทอดวิชาจากหลวงปู่ศรีเช่นกัน ที่จริงแล้วหลวงพ่อบัว ท่านเป็นหลานแท้ ๆ ของหลวงปู่ศรีได้รับการถ่ายทอดวิชามาครบถ้วนภายหลังหลวงพ่อบัว ถูกนิมนต์มาเป็นเจ้าอาวาสวัดแสวงหา จ.อ่างทอง หลวงพ่อบัวก็ได้ถ่ายทอดวิชาให้หลวงพ่อเกลื่อนทั้งหมดเช่นกัน
          เมื่อได้เรียนวิชาจาก หลวงพ่อบัว แล้วได้เดินทางไปขอศึกษาไสยเวทย์จาก หลวงพ่อคำ จนฺทโชโต วัดหน่อพุทธางกูร อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี หลวงพ่อคำเป็นอาจารย์เข้มขลังในไสยเวทย์ที่นับว่าเก่งมากองค์หนึ่งของสุพรรณบุรี เหรียญรุ่นแรกของท่านถูกยกย่องว่าเหนียวอยู่ยงคงกระพันที่สุดเหรียญหนึ่ง ยอดเกจิอาจารย์ต้นถึงพุทธกาลจากนั้นประมาณพรรษาที่ 14 ได้ไปจำพรรษาอยู่ที่วัดพระลอย ต.ลั้วใหญ่ อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี ได้ขอศึกษาพุทธาคมจากพระครูประภัตรธรรมาภรณ์ (หลวงพ่อแต้ม) ซึ่งหลวงพ่อแต้มได้สืบทอดวิชาสายหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค จ.อยุธยา มีความเชี่ยวชาญด้านยันต์เกาะเพชร เหรียญรุ่น ๑ เป็นเหรียญดังของจังหวัดสุพรรณบุรีเช่นกัน ประสบการณ์มากมาย ค่านิยมเหรียญละหลายพันบาท เมื่อได้เรียนจากหลวงพ่อแต้ม แล้วก็ได้ไปเรียนวิชาไสยเวทย์จากหลวงพ่อชื้น วัดบางสะแก อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี

          ธุดงค์วัตร   เมื่อเล่าเรียนไสยเวทย์จากพระคณาจารย์ที่เลื่องเวทย์จบสิ้นแล้ว ก็ได้เดินธุดงค์เพื่อหาความวิเวก ได้เดินธุดงค์ผ่านเพชรบูรณ์ อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ จ.นครราชสีมา ผ่านเขาใหญ่กลับเข้าสู่จังหวัดสระบุรีแล้ว กลับสู่วัดรางฉนวน

          ปฏิปทาศีลวัตร   ชาวบ้าน พุทธศาสนิกชนใน อ.แสวงหา และ อ.ศรีประจัน จ.สุพรรณบุรี จะกล่าวว่าหลวงพ่อเกลื่อนไม่ใช่ธรรมดา ท่านบรรลุญาณทิพย์ วาจาศักดิ์สิทธิ์ มีวิชาดงกระพัน เหรียญยิงไม่ออก และกำบังกายได้ (หายตัว) ผู้เขียนได้พบกับนางสมควร แซ่ตั้ง อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 7 ต.ท่าข้าม อ.บางระจัน จ.สิงห์บุรี เล่าให้ฟังว่า ตั้งแต่ตอนอายุยังน้อยได้ติดตามคุณพ่อไปนมัสการหลวงพ่อเกลื่อนเสมอมาปีละหลาย ๆ ครั้ง มีอยู่ครั้งหนึ่ง ตนและคุณพ่อได้นั่งคุยกับหลวงพ่อที่ชานไม้นอกกุฏิ ได้มีผู้ชายอายุประมาณ 30 ปี วิ่งขึ้นบันไดกุฏิมหาหลวงพ่อ แล้วบอกกับหลวงพ่อเกลื่อนว่า ตนมาเลี้ยงวัวอยู่ข้างวัด ได้ถูกคู่อริไล่ยิง จะมาขอกุฏิหลวงพ่อหลบภัย พอหลวงพ่อได้ยินดังนั้นก็บอกว่าให้นั่งอยู่เฉย ๆ อย่าพูดอะไร แล้วก็เอามือ 2 มือกดลงบนศีรษะ จากนั้นสัก 2 นาทีก็มีคนถือปืนวิ่งขึ้นมาหาหลวงพ่อ แล้วถามว่าหลวงพ่อคนที่วิ่งขึ้นมาบนนี้หลบอยู่ไหน หลวงพ่อตอบว่าหาเอาเอง หาเท่าไรก็มองไม่เห็น ทั้ง ๆ ที่นั่งนิ่งอยู่กลางแจ้งข้างตัวหลวงพ่อ แล้วคนร้ายก็ถอยกลับไปด้วยความงงงวย เรื่องแบบนี้แสดงให้เห็นว่าหลวงพ่อมีวิชากำบังตัว
          อีกเรื่อง นายวน รัตการ บ้านอยู่หมู่ 2 ต.ปลายนา อ.ศรีประจัน จ.สุพรรณบุรี รถจักรยานหาย ได้รับคำแนะนำจากคนข้างบ้านชื่อนางกุหลาบ สิริเมือง พากันไปหาหลวงพ่อเกลื่อนดู หลวงพ่อบอกว่ารถอยู่ในสระน้ำข้างทาง เลยบ้านไปทางทิศเหนือประมาณ 7 เส้น มีสระน้ำอยู่ข้างทาง นายวน ได้กลับไปหาพร้อมกับนางกุหลาบ ปรากฏว่ามีสระน้ำจริงและได้ลงไปงมหา ได้พบจักรยานคืนกลับมา นางกุหลาบ ปัจจุบันอยู่บ้านเลขที่ 159 หมู่ที่ 6 ต.วังน้ำเย็น อ.แสวงหา จ.อ่างทอง พระสงฆ์พระลูกวัดเวลาจะลาสิกขา จะไปให้หลวงพ่อดูวันสึก มีอยู่รูปหนึ่งไม่เชื่อฟัง ไปให้ที่อื่นดูมา หลวงพ่อตรวจแล้วบอกว่าวันนั้นไม่ดี สึกแล้วจะอายุสั้น ก็ไม่เชื่อฟังพอสึกออกไป วันรุ่นขึ้นก็ถูกรถชนตาย

          วัตถุมงคลและประสบการณ์
          เหรียญรุ่นแรก ปีพ.ศ.2505 มีประสบการณ์ ปืนยิงไม่ออก เมื่อปีพ.ศ.2509 โจรเข้าปล้นบ้านนายเลียบ แซ่เล้า อยู่บ้านเลขที่ 7 หมู่ที่8 ต.วังน้ำเย็น อ.แสวงหา จ.อ่างทอง คนร้ายได้เข้าจับตัวเอาปืนจี้ตัวนายเลียบ และนายจอด 2 พ่อลูกให้อยู่ในความสงบ แต่นายเลียบได้ตะโกนร้องเรียกชาวบ้านให้ช่วยหลายครั้ง ชาวบ้านรวมตัวส่งเสียงมาช่วยนายเลียบ ทำให้โจรโกรธมาก ได้เหนี่ยวปืนยิงนายเลียบและนายจอดหมายฆ่าให้ตาย ปรากฏว่ากระสุนด้านทั้ง 2 กระบอก    นายเลียบและลูกตัดสินใจต่อสู้โจรเห็นท่าไม่ดีวิ่งหนีกระเจิง นายเลียบและนายจอดต่างก็ห้อยเหรียญรุ่นแรกอยู่ในคอคนละเหรียญ นายจอด แซ่เล้า กล่าวว่าเขาและคุณพ่อรอดตายได้ก็เพราะเหรียญรุ่นแรกหลวงพ่อเกลื่อนเรื่องนี้ตำบลวังน้ำเย็นรู้กันทั่ว เหรียญรุ่นแรกหายากมากเพราะสร้างจำนวนประมาณ 1,800 เหรียญเท่านั้น พุทธคุณสูงชาวบ้านหวงแหนมาก ตามตลาดพระก็ไม่มีให้เห็น เสียงจากผู้ใหญ่บ้านท่านหนึ่งในอำเภอแสวงหาว่าได้มีคนมาขอเช่าไปจากชาวบ้านมีอยู่เหรียญราคาตั้ง 5,000 บาท หายากจริง ๆ ผู้เขียนพยายามติดตามจะหามาถ่ายรูปประกอบเรื่องก็หาไม่ได้

          เรื่องบุญฤทธิ์และพลังแห่งจิตที่ปรากฏ
          เรื่องอบายมุข และเรื่องดื่มสุราของเมาในเขตศาสนาสถานภายในวัดท่านจะห้ามเด็ดขาดในขั้นแรกท่านจะสอนว่ากล่าวตักเตือน ถ้าไม่เชื่อฟังท่านจะไล่ให้ออกไปจากเขตวัด หายปีที่ผ่านมาจังหวัดอ่างทองและอำเภอต่าง ๆ ในยุคนั้นโจรผู้ร้ายชุกชุม ตำรวจได้มาตั้งหน่วยปราบปรามอยู่ในพื้นที่วัดรางฉนวน ได้มีตำรวจปราบปรามท่านหนึ่งชื่อ จ่าทร แสงรุ่ง บ้านอยู่หมู่3 ต.ศรีบัวทอง อ.แสวงหา จ.อ่างทอง ได้มาสังกัดอยู่ที่สถานีปราบปรามภายในวัด พอตกเย็นก็ดื่มสุราจนเมามาย หลวงพ่อเกลื่อนทราบเข้าก็ไปว่ากล่าวตักเตือน แต่จ่าทร เป็นคนดื้อไม่เคยยอมใคร กลับนำเอาสุรามาเลี้ยงกันภายในวัดหนักยิ่งขึ้น มีเรื่องทะเลาะกับชาวบ้านและลูกเมียชาวบ้าน หลวงพ่อเกลื่อนได้ขับไล่ให้ออกไปจากวัด จ่าทรโกรธมากและกำลังเมาได้แบกปืนเล็กยาววิ่งมายังกุฏิหลวงพ่อจะยิงหลวงพ่อ หลวงพ่อกลัวว่า ถ้าจะยิงอาตมา ให้ยิงต้นสะเดาต้นนี้ก่อนพร้อมทั้งชี้นิ้วไปที่ต้นสะเดาข้างกุฏิ จ่าทรหันปืนแล้วยิงไปที่ต้นสะเดาจริง ๆ ปรากฏว่าปากกระบอกปืนแตกเป็น 2 ซีก จ่าทรตกตลึงถึงกับเข่าอ่อน ทิ้งปืน ทรุดตัวลงคุกเข่าแล้วค่อย ๆ คลายเข้าไปกราบขอขมาหลวงพ่อ เรื่องนี้ชาวบ้านที่อยู่ข้างวัดทราบรายละเอียดดี

          น้ำมนตร์ศักดิ์สิทธิ์
          ท่านใดดวงชะตาตกทำมาหากินไม่ราบรื่น เคราะห์ไม่ดี มีศัตรู อาบน้ำมนต์แล้วส่วนมากจะโชคดี ศัตรูจะกลับเป็นมิตร ที่ขัดสนจะกลับมั่งมี ซื้อง่ายขายคล่อง บางรายโชคดีถูกหวยใต้ดินมาก ๆ เมื่อปี 2543 ได้มีเถ้าแก่โรงสีในจังหวัดสุพรรณบุรีท่านหนึ่งได้มาขออาบน้ำมนต์ บนให้หลวงพ่อฟังว่า ภาวะตลาดข้าวไม่ดี ทำโรงสีขาดทุน เป็นหนี้ธนาคาร 10 กว่าล้าน มาให้หลวงพ่อช่วยอาบน้ำมนต์ชำระล้างสิ่งที่ไม่ดีทั้งหลายให้หมดไป และว่าถ้าโชคดีหลุดหนี้จะมาทำบุญช่วย หลวงพ่อสร้างศาลา หลวงพ่อได้นั่งหลับตาสักครู่ แล้วก็ทำน้ำมนต์อาบให้ พอหลวงพ่อรดน้ำมนต์เสร็จทานก็กล่าวว่า ต้นเดือนหน้าเอ็งจะมีลาภได้เงินก้อนใหญ่ อยู่ที่กล้าแค่ไหน เถ้าแก่โรงสีผู้นั้นคุยว่า กลับไปนอนคิดพิจารณาว่าภาวะอย่างนี้ข้าวก็ตุนไม่ได้ จะมีลาภจริงก็ต้องเสี่ยงซื้อสลากกินแบ่งและหวยใต้ดิน ด้วยแรงศรัทธาหลวงพ่อเกิดความมั่นใจได้ซื้อสลากทั้ง 2 อย่างได้ถูกเป็นเงินถึง 30 ล้านบาท และได้นำเงินทำบุญถวายหลวงพ่อสร้างศาลาหลังใหญ่จำนวนเงิน 3 ล้านบาท
            หลวงพ่อเกลื่อน วัดรางฉนวนพบง่าย ใจดี เชิญท่านเดินทางไปกราบนมัสการที่วัดรางฉนวน อ.แสวงหา จ.อ่างทอง โดยมีเส้นทางอยู่ 2 เส้นทางคือ 1.มุ่งหน้าเดินทางไปที่ตลาดอำเภอแสวงหา แล้วสองถามทาง เป็นทางลาดยางตลอด จากอำเภอแสวงหาขับรถวิ่งตรงถึงวัดรางฉนวนระยะทาง 13 ก.ม. เส้นที่ 2 เดินทางมุ่งหน้าถึงตลาดอำเภอศรีประจัน จ.สุพรรณบุรี ขับตรงเลยตลาดตรงไปเส้นจะไปชัยนาท 2 ก.ม. เลี้ยวขาเข้าบ้านควาย ตรงลูกเดียว เข้าไปอีก 12 ก.ม.พอดี จะถึงทางแยกถนนเลียบคลองแล้วเลี้ยวซ้ายไปตามถนนตรงเข้าไปอีก 7 ก.ม.จะถึงวัดพอดีวัดอยู่ติดกับถนน เข้าพบกราบนมัสการขอพรเป็นสิริมงคล

 

โดย สุข แสวงหา