**ขณะนี้ ร้านเราเปิดให้บริการ เฉพาะออนไลน์ เท่านั้นนะคะ**

 

รบกวนลูกค้าที่น่ารักทุกท่าน ...

รบกวนพูดคุย กันในไลน์ เท่านั้นนะคะ

*หากลูกค้าต้องการติดต่อสั่งบูชา สั่งจอง สอบถามรายละเอียด*

ติดต่อได้ที่ Line iD : @pnt19 (กรุณาใส่ "@" ด้วย)  ช่องทาง line เท่านั้นนะคะ

ขอบพระคุณมากค่ะ

สั่งบูชาทาง Line สั่งบูชาทาง Line

ประวัติหลวงปู่ทัศ วัดวังไม้ตอก

ประวัติหลวงปู่ทัศน์ จนฺทาโภ อายุ ๙๓ ปี หลวงปู่ลึกลับมากอภินิหารแห่งวังไม้ตอก 
** ศิษย์หลวงพ่อยี วัดดงตาก้อนทอง เสกข้าวเปลือกเป็นทองคำ**

ตอนที่๑
.......ทำไมผู้เขียนถึงกล่าวว่า หลวงปู่ทัศน์ท่านเป็นพระลึกลับมากอภินิหารแห่งวังไม้ตอก? คำตอบก็คือเหตุที่ผู้เขียนได้รู้จักท่านก็เพราะเมื่อครั้งที่ไปทำบทความประวัติหลวงพ่อยี ที่วัดดงตาก้อนทอง อำเภอบางกระทุ่ม จังหวัดพิษณุโลก ขณะไปถึงวัด เจ้าอาวาสท่านติดแขกอยู่ ผู้เขียนเลยปลีกตัวออกมาเดินบันทึกภาพบริเวณทั่วๆไปของวัดดงตาก้อนทอง จนมาถึงบริเวณหน้าโบสถ์ อยู่ๆก็มีคุณตาแก่ๆคนหนึ่ง ท่าทางอย่างกับพวกชีปะขาว ไม่รู้มาจากไหน ตั้งแต่เมื่อไร พอเห็นอีกทีแกก็เดินเข้ามาหาถึงตัวผู้เขียนแล้ว และก็มาบอกแค่ว่า ให้ไปหาหลวงปู่ทัศน์ ที่วัดวังไม้ตอก อำเภอวังทอง โดยกำชับว่าต้องไปให้ได้นะ ท่านเก่งแบบหลวงพ่อยี แต่ไม่ยอมเปิดเผยตัว ไปหาท่านเถอะ แล้วบอกว่าตาให้มาหา พอสิ้นคำแนะนำของคุณตาก็พอดีกับน้องๆทีมงานตะโกนเรียกผู้เขียน โดยบอกว่าท่านเจ้าอาวาสวัดดงตาก้อนทองเสร็จธุระกับแขกแล้ว ท่านตามให้ไปหา ผู้เขียนเลยหันไปทางทีมงานแล้วตะโกนบอกว่ารอเดี๋ยว กำลังจะไป ขอสัมภาษณ์คุณตาก่อน พอตะโกนเสร็จก็หันกลับมาเพื่อจะสัมภาษณ์คุณตาเพิ่มเติมอีกสักหน่อย แต่ไม่รู้ว่าคุณตาหายไปไหนเสียแล้ว ตอนนั้นผู้เขียนได้แต่นึกอยู่ในใจ นั่นประไร!! เจอดีเข้าแล้วไหมหละ? พอเสร็จจากการทำบทความที่วัดดงตาก้อนทอง พวกเราจึงหาเวลาที่จะไปค้นหาหลวงปู่ทัศน์ที่บ้านวังไม้ตอกกัน ว่าแต่ว่าชื่อแปลกอย่างนี้จะอยู่ส่วนไหนของอำเภอวังทองกันนะ น้องๆทีมงานจึงไม่รอช้าทำการค้นหาในแผนที่กูเกิ้ล ไม่นานก็พบ จากนั้นพวกเราจึงตั้งระบบจีพีเอสนำทางไป ปรากฏว่าอีกราวๆหนึ่งชั่วโมง พวกเราก็มาถึงวัดวังไม้ตอกจนได้ 
........เมื่อมาจอดรถเข้าที่ดีเรียบร้อยแล้ว พวกเราก็พากันเดินลงจากรถ แต่เชื่อไหมว่า วัดนี้เงียบสงบวังเวง ชวนขนลุกอย่างไรก็ไม่รู้ ทันใดนั้นน้องคนหนึ่งในทีมงานก็ร้องตะโกนขึ้นมาว่า พี่ๆ หนูเห็นเด็กแก้ผ้าวิ่งเข้าไปที่ต้นไทร หา อะไรนะ ทุกคนแทบจะร้องอุทานขึ้นมาพร้อมๆกับสายตาทุกคู่ที่จ้องมองไปยังต้นไทร แต่ก็ไม่ทันเห็นเด็กแก้ผ้าเสียแล้ว พวกเราจึงสรุปว่าน้องคนที่เห็นคงตาฝาดไป จากนั้นก็เห็นหลังพระผู้เฒ่าตัวเล็กๆรูปหนึ่งกำลังเดินจากศาลาหลังใหญ่ไปยังกุฏิที่อยู่ทางด้านท้ายวัด พวกเราเลยรีบเดินตามไปทันที แต่ปรากฏว่าพวกเรากึ่งเดินกึ่งวิ่งก็ตามท่านไม่ทัน จนเห็นท่านเดินขึ้นกุฏิไปแล้ว พวกเราจึงตามไปถึงหน้ากุฏิ แต่พอมองเข้าไปก็ไม่เห็นมีใครอยู่สักคน พวกเราจึงตะโกนเรียกท่าน แต่ปรากฏว่าไม่มีเสียงตอบรับใดๆ ทุกอย่างเงียบสงบ ขณะนั้นผู้เขียนนึกอยู่ในใจเลยว่า วัดนี้แปลกๆดูลึกลับวังเวงชอบกล จึงพาทีมงานทั้งหมดเดินย้อนกลับออกมาที่ศาลาหลังใหญ่หน้าวัดตามทางเดิม และพวกเราทั้งหมดก็ต้องสะดุ้งเฮือก!! เมื่อเห็นพระผู้เฒ่าที่เราเดินตามเมื่อครู่ กลับมานอนเล่นอยู่ที่ต้นไทรได้อย่างไรก็ไม่รู้ ต้นไทรต้นนี้คือต้นที่น้องในทีมงานเห็นเด็กวิ่งหายเข้าไปตั้งแต่ทีแรก ที่พวกเราลงรถ และพวกเราต่างก็จ้องมองหาเด็กแก้ผ้ามาแล้ว โดยไม่เห็นทั้งเด็กและพระมานอนเล่นเลย แล้วนี่พระผู้เฒ่านั้นท่านมาได้อย่างไร ตอนขึ้นกุฏิไปแล้วก็หายเงียบไปเลย ถ้าท่านจะเดินออกมาใหม่ ก็ต้องเดินตามหลังพวกเราออกมา พวกเราก็ต้องเห็น แต่นี่เราไม่เห็นท่านเดินตามหรือเดินแซงพวกเราออกมาเลย ในใจผู้เขียนตอนนั้นนึกเลยว่า เจอดีอีกแล้วสิเรา สงสัยพระผู้เฒ่าลึกลับรูปนี้คงเป็นหลวงปู่ทัศน์อย่างแน่นอน
......ผู้เขียนจึงเดินนำน้องๆเข้าไปกราบนมัสการและสอบถามว่าท่านคือหลวงปู่ทัศน์ใช่หรือเปล่า? ท่านไม่ตอบ แต่จ้องหน้าผู้เขียนอยู่สักครู่ แล้วก็พยักหน้ารับว่าใช่ จากนั้นท่านก็ถามว่าตาผ้าขาวบอกให้มาหาฉันรึ? ผู้เขียนก็ตอบว่าครับ จากนั้นท่านก็นิ่งไม่พูดอะไร แต่ขณะเดียวกันน้องๆทีมงานที่นั่งอยู่ข้างหลัง ก็กระซิบบอกว่าน้องคนเดิมเห็นเด็กเล็กๆ คอยชะโงกหน้ามาแอบดูอยู่หลังต้นไทร แต่พอผู้เขียนและทุกคนมองตามไปกลับไม่เห็นอะไร ผู้เขียนจึงเรียนถามหลวงปู่ว่า แถวนี้มีเด็กมาเล่นด้วยหรือครับ หลวงปู่ท่านนิ่งไม่ตอบ แต่ชวนพวกเราขึ้นไปนั่งคุยบนศาลาหลังใหญ่ข้างๆ ท่านบอกว่ากุฏิของท่านอยู่ด้านบนศาลาหลังนี้ ว่าแล้วท่านก็ลุกเดินนำหน้าขึ้นศาลา พวกเราก็ลุกเดินตามท่านไปทันที พอขึ้นไปแล้วพบว่าศาลาโล่งหลังใหญ่มาก แต่กุฏิหรือห้องที่ท่านอยู่นั้นกลับเล็กๆแคบๆนิดเดียว และมีอะไรบางอย่างบนประตูกุฏิที่ทำให้พวกเราต้องตะลึง นั่นคือมหายันต์ของหลวงปู่ที่ลงเอาไว้เต็มบานประตูอย่างชนิดที่พวกเราไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน ตอนนั้นผู้เขียนแอบคิดในใจเลยว่า หลวงปู่รูปนี้ลึกลับและพิสดารอย่างยิ่ง แต่ยังไม่ทันที่ผู้เขียนจะละจากความคิดเลย หลวงปู่ท่านก็หันมาถามว่า มันพิสดารตรงไหนรึ? คำถามของท่านเล่นเอาผู้เขียนสะดุ้งเลย แสดงว่าท่านรู้ว่าเราคิดอะไรอยู่ นี่ถ้าใครคิดด่าว่าท่านอยู่ในใจหละก็ เสร็จแน่ ท่านรู้หมด แบบนี้แปลว่าท่านไม่ใช่พระธรรมดาเสียแล้ว มิน่าเล่าตาผ้าขาวถึงบอกว่าท่านเก่งเหมือนหลวงพ่อยีผู้เป็นอาจารย์