**ขณะนี้ ร้านเราเปิดให้บริการ เฉพาะออนไลน์ เท่านั้นนะคะ**

 

รบกวนลูกค้าที่น่ารักทุกท่าน ...

รบกวนพูดคุย กันในไลน์ เท่านั้นนะคะ

*หากลูกค้าต้องการติดต่อสั่งบูชา สั่งจอง สอบถามรายละเอียด*

ติดต่อได้ที่ Line iD : @pnt19 (กรุณาใส่ "@" ด้วย)  ช่องทาง line เท่านั้นนะคะ

ขอบพระคุณมากค่ะ

สั่งบูชาทาง Line สั่งบูชาทาง Line

ประวัติหลวงพ่อเกษม เขมจาโร วัดมะม่วงตลอด

พ่อท่านเกษม เขมจาโร วัดมะม่วงตลอด จ.นครศรีธรรมราช

ทายาทสายวิชาของพ่อท่าน คลิ้ง วัดถลุงทอง 
          

หลวงพ่อเกษม เขมจาโร วัดมะม่วงตลอด จ.นครศรีธรรมราช 
เกิดวันที่ 1 มีนาคม 2475  ภูมิลำเนาเดิมของท่าน เป็นชาวตำบลเสาธง อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช
ชื่อเดิม นายเกษม คุ้มกุมาร  อุปสมบท ณ วัดถลุงทอง อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช โดยพระครูประพัฒสุตคุณ เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายา พระเกษม เขมจาโร อายุปัจจุบันถึง พ.ศ.2561 อายุ 87 ปี 
ตำแหน่งปัจจุบัน ได้รับพระราชทานแต่งตั้งสมณศักดิ์ เป็นระครูสัญญาบัตร เจ้าอาวาสวัดราษฎร์ ชั้นโท 
นาม “พระครูมงคลเหมรัต” เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ.2555 
          ชีวิตหลวงพ่อเกษม ก่อนจะอุปสมบท ดั่งเดิมเป็นคนพื้นเพใกล้วัดถลุงทอง เมื่อเป็นหนุ่ม ครบบวชในอายุ 20 ปี ได้อุปสมบทครั้งแรก เป็นเวลา 2 ปี ทำหน้าที่ปรนนิบัตรับใช้ หลวงพ่อคลิ้ง วัดถลุงทอง ในกิจวัตรประจำวัน เช่นดูแลเรื่องการฉันอาหาร การบีบนวด ช่วยเหลือทั่วไปตามที่พ่อท่านคลิ้งจะใช้งาน และติดตามไปเมื่อมีกิจนิมนต์ในที่ต่างๆ หลังจากนั้นท่านก็ได้ลาสิขา ออกมาเป็นฆราวาส ด้วยความที่บ้านอยู่ใกล้วัด ท่านก็ยังไปปรนนิบัตรับใช้พ่อท่านคลิ้งอย่างสม่ำเสมอ ตอนเช้าท่านก็ไปช่วยจัดสำหรับให้พ่อท่านคลิ้ง ฉันข้าว ตกตอนเย็นก็ก่อไฟให้ รอบกุฏิของพ่อท่านคลิ้ง ให้เป็นควันเพื่อไล่ยุงเพราะกุฏิที่พ่อท่านคลิ้งอยู่แต่ก่อนเป็นกุฏิหลังไม้เป็นโถง ไม่ได้กั้นห้องแต่อย่างใด 
          เมื่อเวลาต่อมามีคนนำของต่างๆ มาให้พ่อท่านคลิ้งทำวัตถุมงคลให้ มากมายจนพ่อท่านคลิ้งทำไม่ไหว พ่อท่านคลิ้งจึงได้เรียก ท่านเกษมมาเพื่อที่จะใช้งาน โดยสอนวิชาในการจารตะกรุด การเขียนเลขยันต์ การทำผ้าขึ้นเปลเด็ก การทำสายคาดเอว และอื่นๆ อีกมากมาย ท่านก็ได้ฝึกตามคำแนะนำสั่งสอนของพ่อท่าคลิ้งจนจำขึ้นใจ หลังจากนั้นเมื่อท่านเกษมเริ่มมีความชำนาญมากขึ้น พ่อท่านคลิ้งจึงทำพิธีครอบครู ครอบมือ รับเป็นศิษย์อย่างเป็นทางการ และโยนตำราให้ ภายในเวลาอันสั้น ท่านเกษมก็เรียนรู้ได้จนหมด ส่วนคาถาบางอย่าง ที่ไม่มีในตำราพ่อท่านคลิ้งกว่าให้ฟังและให้จำเอาเอง หลังจากนั้นเมื่อพ่อท่านคลิ้งไปประกอบพิธีกรรมที่ไหน หรือมีกิจนิมนต์ต่างๆ ท่านเกษม ก็ได้ออกปากให้ติดตามไปเป็น พราหมสายฆราวาสไปทุกที่ และได้รับหน้าที่สำคัญคือปลงผม  ให้พ่อท่านคลิ้ง ในวันโกน ทุกครั้ง“แต่ก่อนท่านได้เก็บเส้นผมของพ่อท่านคลิ้งไว้มาก แต่ในภายหลังได้แจกให้ลูกศิษย์จนหมด” ต่อมาเมื่อชาวบ้านเห็นว่าท่านเกษมเป็นหมอสายพราหม ก็ถูกติดต่อไปประกอบพิธีกรรมต่างๆ อยู่เรื่อยๆ อย่างต่อเนื่อง เช่นตั้งศาลพระภูมิบ้าง วางศิลาฤกษ์ สวดพลิกแผ่นดิน สะเดาะเคราะห์บ้านเรือน และอื่นๆ 
           เมื่อครั้งที่พระองค์จ้าภาณุพันธ์ ยุคล นิมนต์พ่อท่านคลิ้งไปยังวังอัศวิน ท่านเกษมก็ได้ติตามไปด้วย อยู่ที่ในวังครั้งละเป็นเดือน ท่านเล่าให้ฟังว่าในบางวัน พ่อท่านคลิ้งได้รับนิมนต์ไปบ้านเจ้านายชั้นผู้ใหญ่ เพื่อสวดมนต์ ฉันข้าวเพล สวดบ้านเรือนอยู่เรื่อยๆ บางวันอยู่ในวังไม่ได้ไปไหน พ่อท่านคลิ้งก็ให้ท่านเกษมจารผ้ายันต์ จารตะกรุด พ่อท่านคลิ้งปลุกเสกเสร็จได้แจกจ่ายผู้คนที่อยู่ในวัง ได้ ไปบูชา
           ในภายหลังท่านเกษม ได้อุปสมบทอีกครั้ง ณ วัดถลุงทอง และจำพรรษาอยู่ที่วัดถลุงทอง เรื่อยมาเป็นระยะเวลา 5 พรรษา ประกอบกับในตอนนั้นวัดมะม่วงตลอดว่างเว้นเจ้าอาวาส ชาวบ้านในละแวกนั้นที่ได้เลื่อมใสศรัทธาต่อหลวงพ่อเกษม ได้นิมนต์หลวงพ่อเกษมมาจำพรรษาที่วัดมะม่วงตลอด ท่านจึงได้ดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสลอดมาจนถึงปัจจุบัน ท่านได้บูรณะศาสนสถานภายในวัด ดูแลปกครองสงฆ์ในวัด นอกจากนั้นท่านก็ยังได้สืบทอดสายวิชาของพ่อท่านคลิ้งที่เคยเรียนมา โดยทำเครื่องรางของขลัง เพื่อให้ลูกศิษย์ได้ใช้อยู่เรื่อยๆ เช่นตะกรุดโทนช้างผสมโขลง ตะกรุดคู่กันภัยและเมตตา สายคาดเอว ผ้ายันต์ยันต์ และอื่นๆตามโอกาส เครื่องรางของท่านมีประสบการณ์มากในพื้นที่ และลูกศิษย์ที่เป็นตำรวจทหาร อยู่ทางสามจังหวัดภาคใต้ เด่นด้านแคล้วคลาด และความเหนียว โดยเฉพาะสายคาดเอว ที่ท่านจารมือลงบนผ้า ทั้งด้านหน้าและหลัง แล้วนำมาม้วนกับเชือกและถักมือทุกเส้น ขณะกำลังถักท่านได้ภาวนาปลุกเสกไปด้วยจนเสร็จ ทำให้เครื่องรางของท่านใช้ได้ผลดีมากๆ หลวงพ่อเกษมอยู่อย่างสมถะเรียบง่าย เป็นกันเอง มีความเมตตา ต่อผู้คนที่มากราบไหว้ขอพร